2011-08-17

กู่เทียนเล่อ ลื่นตกบันได เอ็นเข่าขวาที่เคยผ่าตัด ฉีกซ้ำอีกหน! โดย ซ้อ 777


28 กรกฎาคม 2011
ข่าวเก่าวันที่ 28ก.ค.54 : ข่าวอาการบาดเจ็บของหนุ่มกู่เทียนเล่อ ที่ทำให้ยังไปแสดงเรื่องไหนๆก็ไม่ได้รวมทั้งเรื่อง ตำนานขุนศึกตระกูลหยาง เอามาฝากแฟนๆที่คิดถึงเฮียกู่






















ช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ค.54 พระเอกกู่เทียนเล่อ เกิดอุบัติเหตุ ลื่นตกบันไดบ้านตัวเองในฮ่องกงเพราะรองเท้าแตะที่ใช้ใส่ในบ้าน (สงสัยพี่กู่จะยังไม่ตื่นดี...ยังสลึมสลือละเมอฝันถึงเราอยู่...อิอิ) นอกจากเจ็บซ้ำแผลแตกเดิม(แอนซาซินเค้าแจกเข็มละ 500...อ้าว..ลืมตัวคิดว่าพากษ์มวยอยู่) ตอนล้มคงจะใช้มือขวาลงรับน้ำหนัก ผลก็คือเอ็นข้อมือขวาก็ฉีกอีกเป็นอย่างที่สองไปเรียบร้อย!



พระเอกกู่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่งานตัดริบบิ้นเปิดร้านใหม่ที่เมืองกวางโจวของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกLOUIS VITTON เขารับเชิญมาร่วมงานนี้ด้วยพร้อมกับดาราสาวมิเชลยี ซึ่งแสดงเป็นภรรยาคู่กันกับเขามาหลายเรื่องอย่าง Accident เพชรฆาตอุบัติสังหาร และหนังภาคแรกจนถึงภาค 2 ของ Overheard พลิกภารกิจสั่งตาย ที่กำลังจะฉายในจีน 18 ส.ค.นี้ แม้ว่าจะเจ็บแต่ด้วยความที่เป็นคนรักษาสัญญาและรับผิดชอบ หนุ่มกู่ใจ๋ เลยยืนยันมาร่วมงาน ปรากฏตัวเข้ามาในงานพร้อมกับเฝือกเหล็กและไม้เท้าในมือขวา(คนอาไร้....ใส่เฝือกก็ยังหล๊อหล่อ...นะตะเอง)



ที่จริงกู่เทียนเล่อไม่ต้องการจะเปิดเผยข่าวอุบัติเหตุลื่นตกบันไดของตัวเองในครั้งนี้ แต่พอแฟนๆเห็นเขาปรากฏตัวพร้อมเฝือกดามขา มีไม้เท้าในมือ เดินกะเผลก เวลาเดินก็เหมือนจะข่มความปวดไว้ ก็รีบส่งรูปออนไลน์ต่อจากนั้นข่าวก็ไปไวเหมือนไฟลามทุ่ง แฟนคลับกระหน่ำโพสต์แทบจะทำเวบล่ม ด้วยความเป็นห่วง กู่ใจ๋จึงเหมือนกับถูกบังคับให้ต้องรายงานอาการบาดเจ็บ ให้แฟนๆได้รับทราบ


















หนุ่มกู่เกิดอุบัติเหตุตั้งแต่เช้าวันที่ 27 ก.ค. แต่จนถึงขณะที่ให้สัมภาษณ์ในงานช่วงค่ำวันที่ 28 เขาก็ยังไม่ได้เข้าร.พ.??? (เหอ เหอ ซ้อ777 อยากจะเป็นลม ทนปวดอยู่ได้ยังไง)




เฝือกเหล็กที่เขาใส่นั้นเขาใส่เองเพื่อยึดข้อเข่าไม่ให้เคลื่อนไหวเวลาเดิน เพื่อลดอาการปวด(ซ้อ 777 คิดว่าน่าจะแถมปริญญาแพทย์ให้พี่กู่เพิ่มอีกสักใบ นอกเหนือไปจากปริญญาเอกด้านปรัชญาการใช้ชีวิต...) เฝือกและไม้เท้าเป็นอุปกรณ์ที่มาจากครั้งก่อนที่เข้าผ่าตัด(รวยขนาดซื้อบ้านร้อยห้าสิบล้านดอลล่าร์ ใช้ของรียูส รีไซเคิลนี่ไม่ใช่งกนะ แต่เพื่อลดโลกร้อนตะหากล่ะตะเอง อิอิ) เอ็นเข่าขวาชื่อ ครูซิเอท ฉีกเมื่อปีที่แล้วขณะถ่ายทำหนังเรื่องโปเยโปโลเยฉบับรีเมก(A Chainese Ghost Story2011)กับ แม่นางเซียวเหล่งนึ่ง หลิวอี้เฟย ของผู้กำกับวิลสันยิป



ครั้งนั้นเขาเข้าฉากบู๊ ถูกสลิงปล่อยลงมาจนเข่ากระแทกพื้น แถมสลิงยังลากเข่าไถลเถลือกพื้นไปต่ออีกไกล เขาคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมาก แต่ปรากฏว่าอีกวันต่อมา เขาเข้าฉากถูกห้อยบนต้นไม้ และเข่าไปกระแทกกับอุปกรณ์บางอย่างในฉาก คราวนี้ปวดมากจนเหงื่อแตกยืนไม่อยู่ ถูกหามขึ้นรถ ส่งโรงพยาบาลทันที และต้องผ่าตัดเพื่อต่อเอ็นเข่าที่ขาด แถมด้วยการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง

เดือนที่ผ่านมาเขาก็เพิ่งเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง เช็คความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเข่าขวา ตรวจเอกซเรย์แบบเอ็มอาร์ไอ เนื่องจากการฟื้นคืนสภาพจากเอ็นเข่าฉีกดีขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มกู่เทียนเล่อเลยเข้าคอร์สฝึกต่อสู้บนหลังม้าเพื่อหนังฟอร์มยักษ์ เรื่องตำนานขุนศึกตะกูลหยาง ที่เขารับบท ตั่วเฮีย มีน้องๆสุดหล่ออาทิ วิคใจ่ใจ๋ อู๋จุน หลินฟ่ง ส่วนบทพ่อของลูกชายหยางทั้ง 7 คือ เจิ้งเส้าชิว (สรุปว่า เรื่องนี้ รวมซุปตา หล่อขั้นเทพ หน้าตาดีกันหมดทั้งตระกูล! วุ้ย...น้ำหมากกระจายน้ำลายหกอีกแล้ว)

กู่ใจ๋เปิดเผยว่า เช้าวานนี้เขาสะดุดลื่นล้มเพราะรองเท้าแตะมันลื่นและตกบันไดที่บ้านของตัวเองทำให้เจ็บที่ขาขวาและข้อมือขวา มันปวดมากและดูเหมือนจะซ้ำเติมแผลเก่าที่เพิ่งผ่าตัดมาเมื่อไม่นานมานี้ เขาบอกว่า เขาไม่เป็นไรมาก และเขาก็ดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดีพอควรเพราะประสบการณ์เข่าเดี้ยงครั้งก่อนทำให้เขามีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลปฐมพยาบาลเวลาเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ ตอนนี้ยังไม่กล้าที่จะไปพบแพทย์ เพราะติดที่รับปากแล้วว่าจะมางานนี้ ถ้าหมดงานตามตารางที่เซตเอาไว้แล้ว ก็จะเข้าโรงพยาบาลทันที (ซ้อ 777 คิดว่าหนุ่มกู่รู้ดีว่าตัวเองเป็นมากถ้าเข้าโรงพยาบาลหมอต้องจับนอนแอทมิดแน่ จึงรอให้มางานนี้ก่อน)
พระเอกกู่ไปโรงพยาบาลเพื่อเอกซ์เรย์และพบแพทย์ในเช้าวันที่ 29 รายงานของแพทย์ออกมาว่าเอ็นเข่า ครูซิเอท ฉีกเป็นเอ็นเข่าข้างเดิม แถมเอ็นข้อมือขวาก็ฉีกอีกหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษาตัวพบแพทย์และทำกายภาพบำบัดนาน 4 เดือน เพราะเพิ่งจะผ่าตัดมาไม่นาน จึงไม่สามารถทำการผ่าตัดต่อเอ็นซ้ำอีกในเวลานี้ได้ การรักษาต้องเป็นแบบประคับประคองตามอาการ ใส่เฝือก ลดการเคลื่อนไหว และสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด สรุปว่าเคราะห์หามยามซวยครั้งนี้หนักกว่าครั้งที่แล้วเท่าตัว แถมเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องยกเลิกการแสดงด้วย ถ้าหากแพทย์ตรวจแล้วเห็นว่าเข่ายังเดี้ยงไม่เลิก
หนังเรื่อง ตำนานขุนศึกตะกูลหยาง” จะเดินกล้องในอีก 5 วัน มีฤกษ์ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องในวันที่ 2 ส.ค. ที่เมืองไคฟง เหอหนาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตระกูลหยางเมื่อพันกว่าปีก่อนแม้จะบังเอิญว่าบทตั่วเฮียตระกูลหยางต้องนั่งรถเข็นเพราะบาดเจ็บจากสงครามแต่ก็ยังมีบทบู๊ บทขุนศึกที่ต้องมีการรบบนหลังม้าและใช้อาวุธโบราณได้อย่างสง่างาม เนื่องจากการบาดเจ็บในครั้งนี้ถือว่ารุนแรง กู่เทียนเล่อตระหนักดีว่าเขาอาจจะเป็นตัวถ่วงสำหรับทีมงาน เลยเสนอเรื่องการถอนตัวกับเรย์มอนด์หว่องผู้อำนวยการสร้าง



เรย์มอนด์หว่องเองก็เป็นห่วงอาการของหนุ่มกู่มาก ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกู่เทียนเล่อไม่สามารถแสดงได้ ผลกระทบที่มีต่อบริษัทจะเสียหายมากไหม? จะทำอย่างไรต่อ? มองๆใครให้มารับบทนี้แทนแล้วบ้าง?
(แหม... พี่ๆนักข่าวนี่ไม้เบื่อไม้เมากับเฮียของเราเจรงๆ เอะอะจะให้เปลี่ยนตัวกันเลย...ช่างไม่รู้บ้างเลยว่าแฟนคลับ เฮียเราเยอะขนาดไหน)

เรย์มอนด์ตอบว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกเพราะเขายังไม่ทราบผลการรักษาว่าหมอว่าอย่างไร แต่นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย เขาโทรคุยกับกู่ใจ๋ตลอด สิ่งที่หวังมากที่สุดคือขอให้กู่ใจ๋หายไวๆและมาเข้าฉากได้ จนถึงเวลานี้เขายังมีความคิดว่ากู่ใจ๋เป็นนักแสดงที่เหมาะกับบทนี้ทีสุดแล้ว หัวใจของเรื่องนี้คือการวางตัวให้กู่ใจ๋เป็นตั่วเฮียของตระกูลหยาง จึงไม่มีการเปลี่ยนตัว แต่จะเปลี่ยนให้ถ่ายทำกับพระเอกคนอื่นๆไปก่อนเพื่อรอกู่ใจ๋ให้อาการค่อยยังชั่วกว่านี้



เพราะรู้ดีว่าพระเอกกู่เป็นประเภท “บ้างาน” ทำงานแทบทุกวัน ตลอดทั้งปีมีหยุดพัก 2วันคือวันตรุษจีนส่งท้ายปีเก่ากับวันขึ้นปีใหม่ (ซึ่งหนุ่มกู่ออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง เขาไม่ได้เป็นมนุษย์เหล็กอย่างนั้นสักหน่อย ) แฟนคลับนับร้อยเลยพร้อมใจไปโพสต์ในเวบ บอกให้พี่กู่ต้องนึกถึงสุขภาพของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ห้ามทำงาน ให้หยุดพัก! เพราะเรื่องนี้ต้องยกกองไปถ่ายทำในใจกลางทะเลทรายในมองโกเลีย ซึ่งแสนจะกันดารแล้วยังไกลหมอ
แต่ตามที่หนุ่มกู่โพสต์ในเวบบลอกของเขาว่า จะรอประเมินอาการตัวเอง เขาไม่อยากผิดคำพูด อยากรักษาสัญญาตามที่ตัวเองได้ตกลไว้ ...
เขาอยากจะขอบคุณในความห่วงใย ของทุกคน ขอโทษที่ทำให้แฟนๆของเขาต้องเป็นกังวล แม้ว่าจะเกิดปัญหานี้ขึ้นแต่เขาก็ไม่ได้เสียใจหรือผิดหวังหรือสนใจว่าทำไมมันถึงเกิด เขาคิดแต่ว่าจะจัดการลดผลกระทบจากปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง ทุกครั้งที่เขาเจอปัญหา สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือ 

ให้คิดบวกเข้าไว้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการฝึกเพื่อปรับปรุงตัวเองทางด้านจิตใจ เรียนรู้ที่จะเผชิญและจัดการกับมัน

ก็บอกแล้ว ว่าพี่กู่ของซ้อ 777 หน่ะ มากกว่าหน้าตาดี ...จิตใจก็ยังดีด้วย....อิอิ..ขอให้หายไวๆล่ะ...มาให้สาวไทยแถวนี้ปรนนิบัติดูแลมั่งก็ได้นะตะเอง..หรือจะโทรสั่งซ้อก็ได้ ตามสโลแกนของซ้อ777 ที่ว่า ส่งร้อนตรงเวลา สั่งช้าเบิ้ลฟรี..... ฮี่ฮี่





รายงานโดย สำนักข่าว ซ้อ 777 
ที่มา ทีวีบีนิวส์, Louis koo Blog, Louis koo Thailand fan club 
古天樂 กู่เทียนเล่อ Louis Koo's Thai Fans Club and Louis Koo Thailand 
shared a link.











2 comments:

Love in the Mist said...

กด +1 ให้ซ้อ 777
ให้ไปเลยหมดใจ
ชื่นชมคร้าาาา

V.I.P...BB said...

ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ
แอบเป็นห่วงนะเนี้ย...ดูแลตัวเองดีดีนะเฮีย